ร้านมดอมูเล็ต

ลูกแก้วสารพัดนึก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

SOLD OUT
฿0.00
สวยเดิมพร้อมเลี่ยมกันน้ำ
  • หมวดหมู่ : หลวงพ่อฤาษีลิงดำ LP Luesi lingdam (out of stock)
  • รหัสสินค้า : 003325

รายละเอียดสินค้า ลูกแก้วสารพัดนึก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

หลวงพ่อท่านสร้างไว้หลายแบบ มีทั้งที่เป็นแบบลูกมะเฟือง แบบกลมสีขาว แบบกลมสีเขียวอ่อน หรือเป็นแบบนี้ที่เป็นแบบกลมสีนิลดำ มีทั้งขนาดลูกเล็กและลูกใหญ่

ลูกแก้วทั้งหมดทุกแบบทุกรุ่น หลวงพ่อท่านพุทธาภิเษกโดยใช้ลููกแก้วจักรพรรดิ์องค์จริงเป็นประธาน พระท่านบอกกับหลวงพ่อท่านว่า ผลจะได้ถึง 99%ของลูกแก้วองค์จริง 

การอาราธนาลูกแก้วท่านบอกให้ทำเป็นกรรมฐานจะเกิดผลมากและยิ่งใหญ่ คือทิพจักขุญาณ ให้อาราธนาทุกวันควบคู่กับการภาวนาพระคาถาเงินล้านไปด้วย จะมีความคล่องตัว จะบังเกิดให้เห็นทันตา และยังป้องกันอันตรายต่างเหมือนพระเครื่องทุกประการ ควรอธิษฐานว่า "ขอความปราถนาทุกอย่างของข้าพเจ้าจงสำเร็จทุกประการ"


เพื่อความคล่องตัวในด้านการเงิน ใช้ท่องกับคาถาเงินล้านครับ การเงินจะคล่องตัว

คาถาเงินล้าน

(ตั้ง นะโม ๓ จบ )

สัมปจิตฉามิ นาสังสิโม 

พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ
 

พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม 
 

มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม 
 

มิเตภาหุหะติ พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิทถิโย

พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม 
 

สัมปะติจฉามิ เพ็ง ๆ พา ๆ หา ๆ ฤา ๆ
( บูชา ๙ จบ ตัวคาถาต้องว่าทั้งหมด)

 

อานุภาพลูกแก้ว

(คัดลอกบางตอนที่ หลวงพ่อเล่าไว้ในหนังสือสมบัติพ่อให้ หน้า ๑๒๒)


ลูกแก้วกลมใส - กลมดำ สั่งทำภายในบ้านเราเอง


ซึ่งผลที่ได้จากลูกแก้วนี่ อุบัติเหตุมีทุกครั้งใน ๓ ครั้งที่แล้วมานะ ที่แจกมาก็พบอุบัติเหตุทุกครั้ง แต่ว่าอุบัติเหตุที่น่าจะตายเขาไม่บาดเจ็บ

อย่างรายหนึ่งไปอยู่อเมริกา ซื้อรถราคา ๓.๐๐๐ เหรียญ ชนกันย่นไปเหลือราคา ๓๐๐ เหรียญ เจ้าของรถไม่ตาย แต่ว่ารถเหลือราคาเพียง ๓๐๐ เหรียญ

และก็เที่ยวแรกที่แจก วันนั้นไปที่อำเภอสามพราน มีสองผัวเมียแกบอกว่า รถชนประจันหน้ากันพังยับเยินเลยพวงมาลัยมากระแทกอกสามี พวงมาลัยคด แต่สองคนในรถไม่เป็นตราย

อีกรายหนึ่งเขามารายงาน รายนี้ลูกสาวตัวเล็กล้มลงไปทับแก้ว เศษแก้วกระเด็นเข้าตา แกก็ร้องจ้า ฝ่ายพ่อก็จะพาไปโรงพยาบาล ก็พอดีนึกขึ้นได้ว่าเรามีลูกแก้ว ก็เลยลองดูว่าลูกแก้วจะช่วยได้หรือไม่ได้ ก็เอาลูกแก้วไปลูบๆ ที่ตา ประเดี๋ยวเดียวลูกสาวหายปวด ก็เลยพาไปหาหมอให้ดูให้ปรากฏว่าไม่มีเศษแก้ว

สำหรับเที่ยวนี้ที่ทำขึ้นมาแล้ว พวกบางแคไปรับมาจากวัด ปรากฏว่าคนหนึ่ง ก้างปลาติดคอ ทำอย่างไรก็ไม่ออก เขาก็จะพาไปหาหมอ พอดีคนที่เขาได้แก้วไปก็อาราธนาลูกแก้วลูบๆ ที่คอ ปรากฏว่าก้างหาย

และก็ที่ชุมแสงรับลูกแก้วไปแล้วกลับไปบ้าน ฟ้าผ่าใกล้ๆ ตัวแกไม่เป็นไรทั้ง ๒ ราย นี่ก็เลยยกทัพไปรับใหม่ ตอนแรกคนไปไม่กี่คน พอได้ยินข่าว เลยยกทัพมาเป็นกองทัพเลย

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจิตใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทนะ จะเห็นว่าแก้วลูกเล็กๆ แต่พึงเข้าใจว่า แก้วนี้ทำด้วยบารมีของพระพุทธเจ้า เวลาทำจริงๆ อาตมาไม่รู้เรื่องเลย

(วิธีการใช้ลูกแก้ว คัดจาก "หนังสือสมบัติพ่อ" ให้หน้า ๑๒๑ ดังนี้ครับ)


"ก่อนที่จะภาวนาคาถาให้มองดูลูกแก้วเสียก่อน จำภาพแก้วได้ ก็หลับตานึกถึงภาพแก้วนั้นแล้วก็ภาวนา นี่ทำเป็นกรรมฐาน จะภาวนา "พุทโธ" หรือ "นะมะพะทะ" ว่าได้ทุกอย่างเพราะว่าแก้วเป็นอาโลกกสิณ สำหรับอาโลกสิณนี่เป็นกสิณพื้นฐานของทิพจักขุญาณ หากว่าขณะที่หลับตาภาวนา ภาพลูกแก้วเลือนไปจากใจ ให้ลืมตาดูใหม่ จำภาพลูกแก้วแล้วภาวนาต่อไป จนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจ

คราวหลังเราไม่ต้องมองดูลูกแก้ว แต่นึกภาพลูกแก้วได้เป็นปกติอย่างนี้ท่านเรียกว่า "อุคหนิมิต" อุคหนิมิตนี่เป็น "อุปจารสมาธิ" เป็นผลของทิพจักขุณาณ เมื่อทำอย่างนี้เรื่อยๆ ไปจนกระทั่งภาพลูกแก้วติดตาติดใจอยู่เสมอ

ต่อมาก็อธิฐานให้ลูกแก้วโตขึ้น ก็จะเห็นภาพลูกแก้วโตขึ้น อธิฐานให้เล็กลงก็จะเล็กลง ให้อยู่สูงก็อยู่สูง ให้อยู่ต่ำก็อยู่ต่ำ อยู่หน้าก็ได้ อยู่หลังก็โด้ตามชอบใจ อย่างนี้เป็น ปฏิภาคนิมิต ถือว่าเป็นนิมิตสูงสุดส่วนหนึ่ง..."

"ในเมื่อเห็นลูกแก้วชัดเจนแจ่มใสดีเท่าไหร่ ความเป็นทิพจักขุญาณของท่านพุทธบริษัทที่จะเห็นภาพอื่นก็จะเห็นชัดเจนเท่านั้น แต่ว่าถ้าเห็นลูกแก้วชัดเจนดีแล้ว ต่อไปก็อธิฐานขอให้ภาพลูกแก้วหายไป ขอภาพของพระพุทธเจ้าจงปรากฏ ในเมื่อเห็นภาพของพระพุทธเจ้าปรากฏแทน ขอให้อธิฐานให้พระองค์โตขึ้น ภาพของพระพุทธเจ้าโตขึ้น ขอให้พระองค์ทรงเล็กลง ก็เล็กลง ให้สูงให้ต่ำได้ตามความต้องการ อย่างนี้ถือว่าถึงที่สุดของ "มโนมยิทธิ"

ถ้าทำมโนมยิทธิได้ตามนี้แล้วจึงเคลื่อนออก ถ้าเคลื่อนไปไหนจิตกับกายจะตัดกันเด็ดขาด คือว่าไปสุดตัว ถ้าไปสุดตัวก็จะได้พบทุกอย่าง จะพบเทวดา จะพบพรหมก็ดี พบพระอรหันต์ก็ดี เราก็จะมีสภาพไปนั่งคุยกันอย่างสบาย เหมือนนั่งคุยกันอยู่นี่ ถือว่าเป็นการเต็มมโนมยิทธิที่ศึกษา เพราะมโนมยิทธิที่ศึกษากันอยู่เวลานี้ เราใช้กำลังครึ่งเดียว..."

"แต่ว่าเพื่อผลประโยชน์ของบรรดาท่านพุทธบริษัทว่า

"ทุกคนยังต้องกินต้องใช้ พระพุทธเจ้าก็ทรงห่วงเหมือนกัน ท่านถือว่าถ้าทุกคนยากจนเสียจริงๆ ไม่มีกินมีใช้ การเจริญสมาธิก็ไม่มีผล เพราะมีความเดือดร้อน"

ฉะนั้นท่านจึงแนะนำว่า ถ้าทำสมาธิในด้านของกรรมฐานครบถ้วนพอใจแล้ว หลังจากนั้นให้ต่อด้วย คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า (คาถาเงินล้านปัจจุบัน) และเวลาที่เจริญพระกรรมฐานทรงฌาณเท่าไร คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็จะทรงฌาณเท่านั้น เมื่อคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าทรงเป็นฌาณ การเงินของท่านพุทธบริษัทจะมีการคล่องตัวดีมาก ถ้าปฏิบัติได้เป็นฌาณจริงๆ คือ เห็นภาพชัดจริงให้สังเกตุดูว่า หลังจากทำไป ๓ เดือน ผลการปฏิบัติลาภสักการะจะเกิด การเงินไม่ฝืดเคือง ยิ่งทำนานมากเงินก็จะยิ่งขังตัว..."